หนึ่งในวิธีที่ง่ายและประหยัดที่สุด ที่จะทำให้เสียงกีต้าร์เรามีความสดใหม่นั่นก็คือการเปลี่ยนสายกีต้าร์ ไม่มีกฎตายตัวว่าเราควรจะเปลี่ยนสายกีต้าร์บ่อยแค่ไหน แต่มือกีต้าร์อย่างเราก็รู้กันดีแหละว่าการได้เล่นกีต้าร์ที่เพิ่งเปลี่ยนสายใหม่มานั้นมันรู้สึกเล่นได้มันส์และสนุกมือมาก แต่การจะหายสายกีต้าร์ที่เหมาะกับเรานั้นอาจเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนักเพราะมีหลากหลายแบรนด์ให้เลือก ดังนั้นเราจึงรวบรวมสายกีต้าร์ที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในขณะนี้มาให้มือกีต้าร์ผู้ที่กำลังมองหาสายใหม่ได้เลือกดูกัน
ปล. ในบทความนี้ขออนุญาติใช้ “กีต้าร์” แทนคำว่า “กีตาร์” ที่เป็นการสะกดที่ถูกต้องเนื่องจากคำนี้สามารถเข้าถึงผู้อ่านได้มากกว่า
ข้อดีของการเปลี่ยนสายกีต้าร์นั้นมีหลายอย่าง เมื่อเราใช้สายกีต้าร์ไปได้สักพักหนึ่งคุณอาจสังเกตเห็นว่าเสียงอาจไม่สดใหม่เหมือนเดิมและอาจมีปัญหาลามไปเรื่องของ Tunning และ Intonation ซึ่งส่วนมากแล้วปัญหาที่สามารถแก้ไขได้เพียงแค่เปลี่ยนสายกีต้าร์ใหม่ให้กับกีต้าร์ของคุณนั่นเอง
สายกีต้าร์ไฟฟ้าแนะนำ
จากผลการทดลองจากนิติยสารกีต้าร์ชื่อดัง Guitar World ทางนิติยสารได้เลือกให้สองยี่ห้อนี้เป็นสายกีต้ารที่ทางนิติยสารชอบที่สุด
แต่เรื่องของความชอบเป็นอะไรที่ตัดสินยากตัวเลือกนี้เป็นเพียงการตัดสินจากความชอบของผู้เชี่ยวชาญที่ Guitar World เท่านั้นผู้อ่านอาจมีความเห็นต่างก็ได้ Elixir Optiweb สายกีต้าร์จะ Elixir ขึ้นชื่อเรื่องการ coating ที่ทำให้มีอายุการใช้งานยืนยาว ส่วนเสียงที่ได้ออกมานั้นให้ความใสและอุ่น ส่วน D’Addario XL นั้นได้เสียงที่กว้างซึ่งหาสายยี่ห้ออื่นที่ให้เสียงคล้ายกันได้ยากทีเดียว เทียบกับราคาแล้วถือว่าไม่แพง และ ศิลปินหลายๆคนก็เลือกใช้สายยี่ห้อนี้ด้วย
อย่างที่บอกว่าตัวเลือกดังกล่าวเป็นเพียงความส่วนตัวของ นิติยสาร Guitar World ทีเราจะพามาดูสายกีต้าร์หลากหลายยี่ห้อที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในขณะนี้
6 รุ่น สายกีต้าร์ไฟฟ้า ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
1. สายกีต้าร์ Ernie Ball Slinky
เชื่อว่ามือกีต้าร์ทุกคนต้องเคยเห็น...
ราคา ~180 บาท
ข้อดี
- ทนทาน
- เสียงดี
- มีให้เลือกหลากหลายขนาด
ข้อเสีย
- ไม่มี
สายกีต้าร์ Ernie Ball น่าจะเป็นหนึ่งในยี่ห้อที่มีชื่อเสียงมากที่สุด และ Ernie Ball Slinky ยังเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดทั่วโลกอีกด้วย เนื่องจากราคาที่สมเหตุผลและความทนทาน เรื่องของขนาดก็มีให้เลือกมากมายตั้งแต่เบอร์ 9-46, 9-42, 10-46, 11-48, 12-56
2. สายกีต้าร์ D’addario EXL
มีหลากหลายเบอร์และรูปแบบให้เลือกใช้...
ราคา ~195 บาท
ข้อดี
- มีหลากหลายวัสดุให้เลือก
- มีสายหลายเบอร์
ข้อเสีย
- ไม่มี
แบรนด์สายกีต้าร์ที่เป็นคู่แข่งตลอดกาลของ Ernie Ball สายกีต้าร์ D’addario มีกรรมวิธีสร้างที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งในรุ่น XL นั้นมีหลากหลายวัสดุซึ่งแต่ละแบบก็จะให้เสียงที่ต่างกันออกไปเล็กน้อยสายเลือกดูได้ตามความชอบ
3. สายกีต้าร์ D’addario XT
ทนไม้ทนมือและมีการเคลือบสาย...
ราคา ~350 บาท
ข้อดี
- สายคุณภาพดีที่สุดของ D’addario
- มีการเคลือบสาย
ข้อเสีย
- การเคลือบสายอาจทำให้สายรู้สึกเลื่อนไปหน่อย
ถ้าหากชอบสาย D’addario รุ่น XT นี้มีการเคลือบสายมาให้เพื่อให้อายุของสายมีความยาวนานขึ้น รวมถึงทนทานมากขึ้น โดยไม่มีผลกระทบต่อเสียง
4. สายกีต้าร์ D’addario NYXL
ทนทาน เสียงไม่เพี้ยน
ราคา ~350 บาท
ข้อดี
- มีส่วนช่วยให้เสียงกีต้าร์ไม่เพี้ยนไม่ต้องจูนบ่อย
- เหมาะสำหรับคนชอบใช้คันโยก
- เสียงกว้าง
ข้อเสีย
- ราคาแอบแรง
NYXL เป็นการใช้เทคโนโลยี high-carbon steel core ทำให้มีความทนทานและเสถียรมากขึ้น ซึ่งจากการทดลองใช้ก็พบว่าทำให้ Tunning ของกีตาร์เพี้ยนน้อยลงจริงๆ ถ้าใครชอบเล่นคันโยกแล้วกลัวปัญหาจากสายเพี้ยน D’addario NYXL อาจเป็นตัวช่วยของคุณ
5. สายกีต้าร์ Elixir Optiweb
สายกีต้าร์เคลือบที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุด
ราคา ~490 บาท
ข้อดี
- กันสนิม ใช้ได้นามมาก
- การเคลือบสายไม่มีผลต่อเสียง
- เสียงใสและกังวาล
ข้อเสีย
- ราคาค่อนข้างแพง
สายนี้มีการใช้ Optiweb ในการเคลือบสายเพื่อให้สามารถใช้งานได้นานขึ้น โดยการเคลือบสายนี้แทบไม่มีผลต่อเสียงที่ออกมากเลย หลังจากปล่อยไว้ไม่เปลี่ยนเป็นเวลาหลายเดือน เสียงที่ออกมาก็ยังโอเคอยู่นะ
6. สายกีต้าร์ SIT Power Wound Nickel
สายที่มือกีตาร์วง Lamb Of God และ Rammstein เลือกใช้
ราคา ~250 บาท
ข้อดี
- ผลิตจาก USA
- อายุการใช้งานยาว
- มีหลายเบอร์ให้เลือก
ข้อเสีย
- ไม่มี
สายกีต้าร์ไฟฟ้าสัญชาติอเมริกา ที่เป็นตัวเลือกของมือกีตาร์ชื่อดังอย่าง Willie Adler จากคณะ Lamb Of God และ Richard Kruspe จากวง Rammstein
สรุป
หวังว่าทุกคนจะได้เลือกสายกีต้าร์ใหม่ไปเปลี่ยนให้กับกีต้าร์สุดรักของเรา การดูแลเอสใจใส่กีต้าร์ก็จะทำให้ เราสามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมากับกีต้าร์คู่ใจได้อย่างดีที่สุด และผู้อ่านท่านใดกำลังมองหาหูฟังไร้สายไว้ฟังเพลงหรือแกะเพลง เรามีรายการหูฟังไร้สายแนะนำมาให้อ่านเช่นกัน
